วันศุกร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2560

ESP8266 และการติดตั้ง ESP8266 NodeMCU ลงบน Arduino IDE

NodeMCU คืออะไร ? ?

        ESP8266 เป็นโมดูลเชื่อมต่อ WiFi ที่ผลิตจากจีน มีขนาดเล็กมากๆ และราคาถูก ตัวเฟิร์มแวร์ NodeMCU เมื่ออัพโหลดลงบอร์ดไปแล้ว จะเปรียบเสมือนตัวบอร์ดเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเลยทีเดียว เขียนโปรแกรมสั่งงานด้วยภาษา Lua
        NodeMCU มาพร้อมกับโมดูล WiFi (ESP8266) ซึ่งใช้ในการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต NodeMCU นั้นมีพอร์ต Input Output  buil-in มาในตัว ทำให้สามารถเขียนโปรแกรมควบคุมอุปกรณ์ I/O ใส่ในบอร์ดได้
        แล้วเมื่อไม่นานนี้ก็มีนักพัฒนาที่สามารถทำให้ Arduino IDE ใช้งานร่วมกับ Node MCU ได้ จึงทำให้ใช้ภาษา C/C++ ในการเขียนโปรแกรมได้ ผู้ที่ใช้ Arduino อยู่แล้ว จึงนิยมใช้ Arduino IDE ในการพัฒนาเฟิร์มแวร์มากกว่า NodeMCU สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับ IoT

ติดตั้ง ESP8266 NodeMCU ลงบน Arduino IDE

ติดตั้ง Arduino IDE โดย download ตัวติดตั้งได้จาก
https://www.arduino.cc/en/Main/Software
เมื่อติดตั้ง Arduino IDE เสร็จเรียบร้อยแล้วให้เปิด Arduino IDE ขึ้นมา
ไปที่ File > Preference 
ใส่ URL ในช่อง Additional Board Manager ซึ่ง URLs นำมาจาก
โดยเลื่อนลงไปดูในหัวข้อ Installing with Boards Manager ตัว url ที่ต้องการจะลงท้ายด้วย .json
แล้วกด OK
จากนั้นไปที่ Tools > Board : xxxxx > Boards Manager...
พิมพ์ในช่องค้นหาว่า ESP8266 และกด Install
เมื่อลงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ไปที่ Tool > Board : xxxxx จะเห็นว่ามี Modules สำหรับ ESP8266 เพิ่มขึ้นมาแล้ว
เลือกบอร์ดที่เราต้องการจะใช้งาน

 ที่มา : www.elec-za.com/รู้จัก-esp8266-ฉบับตัดตอน/
http://www.ayarafun.com/2015/08/introduction-arduino-esp8266-nodemcu/




วันอังคารที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560

Raspberry Pi3 - การถ่ายทอดสด ด้วย USB WebCam

สิ่งที่ต้องเตรียม

  • Raspberry Pi3
  • SD card 8 GB
  • สาย HDMI to VGA
  • เมาส์ คีย์บอร์ด และหน้าจอ
  • Webcam
**ก่อน boot Raspberry Pi ให้เสียบกล้อง Webcam ที่เป็น USB เข้าไปเลย

การลง Raspbian OS ใส่ Raspberry Pi

สามารถทำตามบทความนี้ได้เลย http://tanabodinkamol.blogspot.com/2017/03/raspbian-os-raspberry-pi.html

ขั้นตอนการทำ 

1. อันดับแรก เมื่อทำการ boot Raspberry Pi ให้ทำการหา update และ upgrade ด้วยคำสั่ง
sudo apt-get update 
sudo apt-get upgrade
ถ้ามีคำถามขึ้นมาถามว่า Do you want to continue ? ให้พิมพ์ Y แล้วกด Enter 
2. หลังจากนั้น เราจะทำการติดตั้งซอฟแวร์ที่ชื่อว่า motion ซึ่ง motion นี่แหละที่จะเป็นตัวที่ทำให้เรา Streaming ได้ พิมพ์คำสั่งนี้เพื่อ download
sudo apt-get install motion 
3. เมื่อลงเสร็จเราจะมาทำการ config ตัว motion ให้สามารถทำงานได้ เราสามารถแก้ไขไฟล์ได้โดยหารพิมพ์คำสั่ง
sudo nano /etc/motion/motion.conf
 สิ่งที่จะแก้ไขในไฟล์นี้คือ 
1.  Daemon ซึ่งอยู่ส่วนบนของโค้ด เดิมค่าของ Daemon เป็น off เราจะต้องเปลี่ยนมันเป็น on
2. webcam_localhost ซึ่งจะอยู่ส่วนล่าง ๆ ของโค้ด เดิมค่าของ webcam_localhostเป็น on เราจะต้องเปลี่ยนเป็น off 
 หลังจากแก้ไขเสร็จแล้ว ให้ save ด้วยการกด ctrl+x แล้วกด y ตามด้วย Enter
4. ทำการ config อีกไฟล์หนึ่ง ให้พิมพ์
sudo nano etc/default/motion 
เราจะเจอข้อความอยู่ 2 บรรทัด ให้แก้บรรทัดที่ 2 ตรง start_motion_daemon ค่าเดิมเป็น no เราต้องเปลี่ยนเป็น yes 
5. ในขั้นตอนนี้จะเริ่มการ Streaming ให้พิมพ์คำสั่ง
sudo service motion start
6. ทดสอบการทำงานโดยพิมพ์ ifconfig เพื่อดู IP address ของ Raspberry Pi ของเรา
7. เมื่อได้ IP มาแล้ว อีกสิ่งที่ต้องทราบคือ port ดูได้จากคำสั่ง
sudo nano /etc/motion/motion.conf 
เลข port จะเป็นตัวเลขหลังคำว่า webcam_port
 8. เมื่อเราทราบ IP และ port ให้เปิด browser ขึ้นมา แล้วพิมพ์ ip:port เช่น 192.168.7.14:8081 ในช่อง url
**หากมีการแก้ไขไฟล์ motion.conf จะต้อง restart motion แล้ว refresh browser ใหม่การ restart ใช้คำสั่ง
sudo service motion restart

หากกล้องมีอาการกระตุก

เราจะต้องเข้าไปเพิ่ม framerate ของกล้อง ในไฟล์ motion.conf ด้วยคำสั่ง
sudo nano /etc/motion/motion.conf
 เราจะแก้ทั้งหมด 2 จุด
1. เราจะแก้ framerate เป็น 100
2. เราจะแก้ webcam_maxrate จากเดิมคือ 1 ให้เป็น 100   

ที่มา http://www.informalsoft.com/webcam-steaming-raspberry-pi/





วันจันทร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2560

การลง Raspbian OS ใส่ Raspberry Pi

Raspbian สามารถติดตั้งบน SD card 2 GB ได้ แต่ขนาดแนะนำคือตั้งแต่ 4 GB ขึ้นไป

Download

download Raspbian ได้จาก http://www.raspberrypi.org/downloads หลังจาก download แล้วให้ unzip ไฟล์นามสกุล .img

การเขียนลง SD card สำหรับ window


หลังจากได้ไฟล์ .img มา ก็เตรียมเขียนลง SD card
  • download โปรแกรมสำหรับเขียนลง SD card ชื่อ Win32DiskImager ได้จากที่นี่ http://sourceforge.net/projects/win32diskimager
  • สร้าง folder สำหรับเก็บโปรแกรมนี้ เช่น C:\Win32DiskImager
  • Unzip ไฟล์ที่ download มาไว้ใน folder ที่สร้างขึ้น
  • รันโปรแกรม Win32DiskImager.exe ที่ unzip มา
  • เลือก image file เป็น .img ที่ unzip ไว้
  • เลือก device ไปที่ SD card ที่จะเขียน
  • กด Write รอจนเสร็จ แล้วทำ Safety Remove Hardware ของ SD card

Boot Raspbian ใน Raspberry Pi


  • ใส่ SD card ที่เตรียมไว้ลงใน socket ที่อยู่ด้านล่างของบอร์ด Raspberry Pi
  • ต่อจอภาพโดยใช้สาย HDMI หรือ composite RCA
  • ต่อ keyboard เข้าทางช่อง USB
  • ต่อสาย network เข้าทางช่อง RJ45
  • ต่อสายไฟเข้าที่ช่อง MicroUSB

จะเห็น boot message ออกทางจอภาพ รอจนกระทั้งเห็นเมนูตามภาพ
การเลือกหัวข้อให้ใช้ลูกศรขึ้นลงกับ Tab เมื่อต้องการทำหัวข้อนั้นให้กด Enter
เนื่องจาก Raspberry Pi ใช้ CPU ความเร็วต่ำกว่า PC ที่คุ้นเคย เวลากด Enter ต้องรอซักนิด เพราะอาจดูเหมือนมันไม่ทำงาน

หัวข้อที่ควรเลือกทำ

  • Expand Filesystem จะเป็นการขยาย file system ให้เต็มขนาด SD card จะมีผลหลังการ reboot
  • Internationalisation Options เปลี่ยน keyboard layout จาก UK เป็น US
หากต้องการเข้าหน้านี้อีกครั้ง ให้เปิด terminal แล้วใช้คำสั่ง
sudo raspi-config

ที่มา http://elinux.org/RPi_Easy_SD_Card_Setup